วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ความเท่ากัน


ความเท่ากัน
           ความยุติธรรมนั้นสำคัญ     หลายๆสิ่งนั้นไม่เที่ยงแท้แน่นอน   ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับเวลา   พระเจ้าให้เวลาทุกคนเท่าเทียมกัน  24 ชั่วโมง   แต่ทำไมคนเราถึงแตกต่างกันไป    บ้างก็สูง ต่ำ  ดำ  ขาว  บางคนฐานะจนบางคนก็รวยเอารวยเอา  บางคนมีรถบางคนมีจักรยาน  บางคนเกิดมาอยู่บนกองเงินกองทองบางคนเกิดมาต้องดิ้นรนเพราะฐานะยากจน    ทุกคนล้วนแตกต่างกันทั้งๆ ที่มีหนึ่งวันเท่ากัน  กลางคืนเท่ากันพระพุทธเจ้าบอกไว้ว่า  คนเราจะต่างกันสำคัญอยู่ที่การกระทำ   ทำคุณความดีย่อมได้รับแต่สิ่งดีๆ  ทำสิ่งไม่ดีก็จะได้รับผลแต่ความไม่ดีตามมา  มีขันติเป็นที่ตั้ง  ทุกคนย่อมประสพผลสำเร็จ  อยากรวยก็ต้องขยันหมั่นเพียรทำงาน  เหตุเป็นอย่างไรผลย่อมตามไปอย่างนั้น  ทำดีย่อมได้ดีทำชั่วย่อมได้ชั่วฉันใดก็ฉันนั้น   เพราะว่าทุกคนแล้วมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการไขว่คว้าหาสิ่งที่เจริญสู่ชีวิตตัวเอง   ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง
           เพราะฉะนั้นกาลเวลาเท่ากันไครบริหารเวลาดีคนนั้นก็จะประสบความสำเร็จกว่าคนอื่น   อย่าจำทนกับอดีต  จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด  เมื่อปัจจุบันดีอนาคตข้างหน้าก็จะดีด้วยเช่นกัน

จงสร้างตัวเอง
                ความดีเป็นการลงทุนเพียงอยากเดียวที่ไม่เคยทำให้ไครล้มละลาย   ชีวิตจะมีความหมายถ้ารู้จักสร้างความดี  คนมีค่าสุดแท้ที่การกระทำ จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำจะสูงจะทำอยู่ที่การทำตัวเอง  รักแบบไหนทำแบบนั้น   อยากให้ตัวเองเป็นแบบไหนก็สร้างตัวเองเอา   อยากมีความรู้สูงๆ  ก็ร่ำเรียนไขว่คว้าเอาอยากรวยก็ขยันทำงานหาเงิน   ชีวิตก็เท่านี้   มาตัวเปล่าก็ไปตัวเปล่า  สัจธรรมชีวิตยิ่งใหญ่แค่ไหน  ศักดิ์ศรี รวยล้นฟ้าแค่ไหนก็ก็เล็กกว่าโลง   คนเราอายุสั้นยิ่งนัก  ต้องรีบทำในสิ่งดีๆเข้าไว้สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ   ทุกคนรู้อยู่แก่ใน  วาสนาจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ตัวเราทำ  บางคนบ่นบานศาลกล่าวไว้อยากได้ดีอยากมีทำแหน่งใหญ่ตัว   แต่ไม่ขยันหมั่นเพียรเอา  บนไว้แค่ไหนก็ไม่ได้ถ้าไม่ลงมือทำ
          จงสร้างตัวเองไม่ใช่ว่าอยากเป็นอะไรก็นอนหลับฝันเอา    เพราะในโลกความเป็นจริงต้องทำเองไม่มีไครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเองเท่านั้นแต่อย่างไรก็ดีอย่ายึดติดกับสิ่งของรอบตัว   ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้มานั้นมันไม่สามารถนำไปได้เมื่อตายไป  มาตัวเปล่าก็ไปตัวเปล่าเช่นกัน   นอกจากคุณงามความดีบาปกรรมบุญที่ทำไว้เท่านั้น

วัด
          วัดนั้นเป็นสถานที่พึ่งทางใจ  ทั้งเป็นสถานที่ๆ ฝึกจิต วัดใดมีสถานที่ไม่สัปปายะไม่เหมาะญาติโยมก็ไม่ค่อยเข้า  วัดใดไปทางกิจการพุทธพาณิชย์มากญาติโยมก็ไม่ค่อยเข้า      ดังนั้นนอกจากสถานที่ที่เป็น โบถ์ส    ศาลา  กุฏิ  กองบุญต่างๆ  ที่ให้ทางคณะศรัทธาเข้าไปกราบไหว้ด้วยแรงศรัทธาแล้ว  ยังประกอบด้วย  อาณาภายในบริเวณที่เป็นส่วนสำคัญนอกจากองค์ประกอบของวัดแล้ว   จึงเป็นสิ่งสำคับโดยเฉพราะต้นไม้ดอกไม้ที่นั่งเล่นหรือเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจบางวัดนั้นยังเนรมิตภายในด้วย  ป่าไม้  ดอกไม้  เพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับญาติโยมที่เข้ามาทำบุญ  ประกอบทั้งป้ายศาสนสุภาษิต  คติ  คำคม  คำกลอนสอนใจ      นอกจากการมาทำบุญแล้วยังเป็นที่เข้ามาแล้วมีความสุขอากาศดี       
        วัดสมัยใหม่จึงต้องจำเป็นต้องทันต่อยุคโลกาภิวัฒน์      แบบว่าญาติโยมเข้าไปแล้วนอกจากทำบุญแล้วมีการเรียนรู้     คำคม    คติสอนใจ   เพื่อขัดเกล่าจิตใจตัวเอง   สูญอากาศบริสุทธิ์  จากวัดที่เป็นที่พึ่งทางใจอย่างแท้จริง   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น